LibreOffice 3.6 กับรูปโฉมที่เปลี่ยนไป (ซะที)

ห่างหายจากการรีวิว LibreOffice ไปนานทีเดียว (ครั้งสุดท้ายรีวิวไว้ที่ exteen เป็นเวอร์ชั่น 3.3 ซึ่งเป็นรุ่น Stable ตัวแรกของ LibreOffice เลยทีเดียว) สาเหตุก็เพราะมันไม่ยอมเปลี่ยนหน้าตาใหม่ซะที ผมเลยเซ็ง ไม่อยากรีวิว แค่นั้นแหละ

แต่เวอร์ชั่น 3.6 ที่เพิ่งออกมาเมื่อหลายวันก่อน ก็ทำให้ผมชื่นใจอีกครั้ง

เริ่มกันตั้งแต่ Splash Screen ที่เปลี่ยนจากขาว ๆ เป็นเขียวอื๋อ (ขอสารภาพว่าจับภาพยากเป็นบ้า มันหายไปเร็วมาก) แสดงถึงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

Start Center ก็เพิ่มแถบสีเขียวมาด้านบน และไม่ไล่สีที่พื้นหลังแล้ว (ของเก่าไปดูที่หน้านี้) 

ที่ถูกใจสุด ๆ คือแถบเครื่องมือ (บน Windows Vista / 7) ไม่ได้เป็นแถบสีฟ้าเงานิด ๆ แล้ว กลายเป็นเรียบ ๆ แลดูทันสมัยเป๊ะ (สมัยนี้ต้องเรียบ ๆ แบน ๆ ราบ ๆ) และจะไม่เห็นลูกศร >> ที่ท้ายแถบเครื่องมือแล้ว เพราะเขาให้ใช้วิธีคลิกขวาเพื่อเรียกดูปุ่มและเมนูเพิ่มเติมแทน

ที่ผมดูแล้วรู้สึกว่าเป็นการยกเครื่องใหม่ที่สุดคือ Template ของ Impress (ทดแทน PowerPoint) โละของเก่าทิ้งแล้วเอาของใหม่มาทดแทน 10 แบบ ดูเรียบหรูเข้ากับตัว LibreOffice รุ่นนี้นักแล...

ผมก็ขอยกมาแค่การเปลี่ยนหน้าตาแค่นี้ละครับ การเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ มันเยอะ อธิบายยาก ก็ขอโยนให้ไปดูที่ 3.6 New Features and Fixes แทนละกัน

ปัญหาที่พบ : ติดตั้งแล้วรันไม่ขึ้น

หากเครื่องใครเคยลง LibreOffice เวอร์ชั่นเก่ามาก่อน พอมาติดตั้งเวอร์ชั่น 3.6 อาจจะพบปัญหารันแล้ว Error วิธีแก้...

1. ให้กด Start แล้วพิมพ์ %appdata%\LibreOffice\3\user (ถ้าใช้ XP ก็พิมพ์ใน RUN) แล้ว Enter
2. เข้าไปลบโฟลเดอร์ extensions ทิ้งซะ
3. เปิด LibreOfffice 2 ครั้ง (ครั้งแรกเปิดแล้วมันจะดับไป ต้องเปิดอีกครั้งถึงจะขึ้นมา)

*หากใครลง LibreOffice เวอร์ชั่นต่ำกว่า 3.4.5 ไว้ ต้อง Uninstall ก่อนติดตั้ง 3.6 นะครับ

  

  

ส่งท้าย

ก็เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาซะบ้าง ไม่จำเจดีครับ เสียตรงที่มันไล่ไม่ทัน MS Office ซะที แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะคู่แข่งอื่นอย่าง Google Docs ก็มาแนว ๆ นี้เหมือนกัน (ใจจริงอยากให้เปลี่ยนไอค่อนเป็นสีเดียวแบบ Google ไปเลยนะ)

ใครที่สงสัยว่า LibreOffice กับ OpenOffice (อันหลังนี่เพิ่งคืนชีพไปอยู่ในอ้อมกอดของ Apache) จะเลือกตัวไหนดี? สำหรับเราคนไทยตอนนี้ไม่มีทางเลือกนอกจาก LibreOffice ครับ  เพราะ OpenOffice ไม่มีใครไปแจ้งบั๊กภาษาไทยอีกต่อไปแล้ว  แต่จริง ๆ LibreOffice ก็ยังมีบั๊กภาษาไทยอยู่นะครับ และไม่รู้ว่าจะได้แก้เมื่อไหร่ ก็เอาใจช่วยต่อไป (หรือจะควักเงิน 2000 กว่าซื้อ MS Office Home and Student มาใช้ก็ไม่ว่ากัน) 

• ปัญหาฟอนต์ภาษาไทยตัวเล็ก + ซ้อนกัน มีวิธีแก้แล้ว ไปดูที่ leknarm's blog
• แต่ถ้าใครใช้ Calc ไม่แนะนำให้ใช้เมนูภาษาไทยเพราะจะใช้ =SUM() ไม่ได้ ต้องใช้ =ผลรวม() แทน ซะงั้น! 

  

ดาวน์โหลดได้ที่ :

LibreOffice.org

สรุปรวบยอด Thunderbird 10 - 13

เป็นที่รู้กัน (ใครยังไม่รู้ก็รู้ซะตอนนี้) ว่า Thunderbird โปรแกรมเช็คเมลที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันกับ Firefox นั้น หันมาออกเวอร์ชั่นใหม่ตาม Firefox แบบเป๊ะ ๆ ชนิดที่ว่าใช้เลขเดียวกันและออกวันเดียวกันซะด้วย
ในเมื่อออกโคตรถี่ จะให้แค่อัพเดตเอ็นจิ้นกับอุดช่องโหว่ตาม Firefox อย่างเดียวก็ใช่ที่ ทางทีมพัฒนาจึงค่อย ๆ หามุขใหม่ ๆ เป็น feature ใส่มานิด ๆ หน่อย ๆ ในทุก ๆ เวอร์ชั่น (แต่บางครั้งก็ดูจะหมดมุขนะ..) งั้นวันนี้ผมจะมาสรุปว่าช่วงที่ผ่านมา Thunderbird ใส่มุขอะไรมาบ้าง

เวอร์ชั่น 10

สิ่งที่เลือกมาใส่ในเวอร์ชั่นนี้ทำเอาผมตื่นตะลึงไปพักนึงที่ได้เห็น มันคือความสามารถในการค้นหาเว็บจากในตัว Thunderbird เอง  แต่ไม่ใช่ว่าจะมีช่องค้นหาให้ใส่คำกันง่าย ๆ นะครับ คุณต้องเปิดเมล์มาสักฉบับ จากนั้นเลือกคำที่ต้องการค้นหา แล้วคลิกขวาเลือก Search nnnn for "xxxx"  (nnnn = ชื่อ search engine, xxxx = คำค้น)

จากนั้นผลการค้นหาจะขึ้นมาในแท็บใหม่ ทางซ้ายมีแถบให้เลือกดูผลจาก search engine ตัวอื่น (จากรูปจะเห็นว่าไม่มี Google ซึ่งจริง ๆ แล้วเวอร์ชั่น 10 ยังมีอยู่ แต่พอเวอร์ชั่นถัดมากลับหายไปแล้วเอา bing มาเป็น Default แทน) และหากคุณคลิกดูเว็บในผลการค้นหานี้ มันก็จะเรียกเบราว์เซอร์ตัวหลักของเครื่องคุณมาเปิดเว็บแทน...

เวอร์ชั่น 11

มุขที่ใส่มาในเวอร์ชั่นนี้ถูกใจผมมาก นั่นก็คือ....

เอาแท็บไปไว้บนสุดแบบ Firefox แล้ว (พัฒนาจากเวอร์ชั่น 9 ที่ซ่อนเมนูได้) แต่มันเจ๋งกว่า Firefox ตรงที่แถบเมนูมันอยู่ล่างแท็บด้วยนี่แหละ (ของ Firefox จะอยู่ข้างบนดูน่าเกลียดมาก) เสียตรงที่ยังไม่มี Thunderbird button

เวอร์ชั่น 12

อันนี้ผมไม่เข้าใจ แถมไม่มีบล็อกใด ๆ อธิบายไว้เลย เขาเขียนว่า Global Search results now include message extracts in the results น่ะ

เวอร์ชั่น 13

ไล่มาถึงยุคปัจจุบันซะที ในเวอร์ชั่น 13 นี้ก็ดูเหมือนจะจัดหนักแบบ Firefox เพราะเพิ่มมาถึง 2 อย่างใหญ่ ๆ ได้แก่...

Filelink :
เป็นระบบที่มาจากแนวคิดที่ว่า ถ้าจะแนบไฟล์ใหญ่ ๆ แบบนั้น สู้เอาไปฝากเว็บแชร์ไฟล์แล้วทำเป็นลิ้งค์ไปดีมั้ย? นั่นล่ะครับ โดยการจะใช้ความสามารถนี้ต้องไปตั้งค่ากันก่อนโดยต้องเข้าไปที่ Tools > Options... แล้วไปที่หัวข้อ Attachments เลือกแท็บ Outgoing

กำหนดไปว่าจะให้เปลี่ยนเป็นโหมดแชร์ไฟล์เมื่อไฟล์แนบมีขนาดใหญ่กว่าเท่าไหร่ แล้วกด Add จะมีบริการให้เลือก (ตอนนี้ยังมีแค่ YouSendIt บริการแชร์ไฟล์ที่คนไทยเคยนิยมเมื่อครั้งบรรพกาล..) จากนั้นคราใดที่คุณเขียนเมล์และแนบไฟล์ หากไฟล์แนบใหญ่กว่าขนาดที่ตั้งไว้ มันก็จะเสนอให้แชร์ไฟล์ผ่านเว็บดังกล่าวแทน จบ.


Sign up for new email accounts :
ตอนเห็นชื่อ feature นี้ ผมล่ะแทบอยากอัพบล็อกแนะนำมันตอนนั้น เพราะคิดว่าเป็นบริการช่วยสมัครเมลให้เรา (คือ นึกว่ามันจะสมัคร Gmail Hotmail ให้อะไรแบบนี้) แต่พอลองกดดูก็พบว่ามันไม่ใช่เลย...

ดูจากภาพแล้วเข้าใจมั้ยครับ? ไม่เข้าใจ? ไม่เป็นไร อธิบายง่าย ๆ ว่ามันเป็นการจดอีเมลที่มีแอดเดรสเป็นของคุณเอง คือ ไม่ใช่ yourname@บริการเมล.com แต่เป็น yourname@yourname.com ไปเลย ซึ่งไม่ฟรีครับ เสียเงินเห็น ๆ  สามารถเข้าไปลองดูได้ทางเมนู File > New > Get a New Mail Account...

ส่งท้าย

ดู ๆ ไปเจ้านกสายฟ้าตัวนี้ชักไม่ชอบมาพากลแล้วแฮะ พี่แกเล่นพ่วงบริการชาวบ้านไปทั่ว (อารมณ์เหมือน Netscape ยุคหลัง ๆ) ไอ้ที่ตัด Google ออกจากการเป็น search engine หลักหลังเวอร์ชั่น 10 นั่นอีก มีอะไรงุงิกับ Bing รึเปล่าหว่า?

ก็ติดตามกันต่อไป ว่าเวอร์ชั่นถัด ๆ ไปจะมีมุขอะไรอีก (แว่ว ๆ ว่าจะใส่ระบบ Chat ของ Facebook กับ Google+ มานะ)

บล็อกนินเปลี่ยนมาใช้ DISQUS 2012 แล้วนะ

DISQUS เป็นระบบคอมเม้นท์สำหรับติดตั้งไว้ตามเว็บหรือบล็อก ซึ่งจะมีลูกเล่นอะไรต่อมิอะไรเยอะกว่าระบบคอมเม้นท์เดิม ๆ ของบล็อกนั้น ๆ เช่น ตอบคอมเม้นท์ได้ กดชอบเม้นท์ที่ถูกใจได้ ล็อกอินด้วยแอคเค้าท์ Social Media ต่าง ๆ ได้ ฯลฯ  ซึ่งปัจจุบันในไทยก็มีเว็บดังมากมายเปลี่ยนมาใช้ DISQUS เช่น เว็บ FAIL.in.th และแน่นอนว่าที่บล็อกนินนี่ก็ใช้เหมือนกัน


แต่ช่วงที่ผ่านมาถ้าใครแวะไปอ่านคอมเม้นท์ฮา ๆ ที่เว็บ FAIL.in.th อาจจะเห็นว่า อ๊ะ หน้าตาระบบคอมเม้นท์มันเปลี่ยนไปนี่ ไอ้ผมเองก็สงสัยว่ามันมีธีมใหม่มาให้เปลี่ยนรึไง เข้าไปดูก็ไม่มีนี่นา ที่ไหนได้ต้องกดไปขอ Invite ก่อนนี่เอง (ไปขอได้ที่ http://disqus.com/2012/ แต่ต้องมี DISQUS ติดเว็บไว้อยู่แล้วนะ) ไม่ถึงวันผมก็ได้มา...

หลังจากจับ ๆ เล่นดูก็พบว่ามันเจ๋งมากเลย รู้สึกว่าโหลดเร็วขึ้นมากมาย มีหัวข้อ Community ให้กดดูประเด็นยอดนิยม แล้วยังมีการแสดงอันดับคนคอมเม้นท์สูงสุดด้วย (ผมก็เลยเอา Widget ที่อยู่ตรงตีนบล็อกออกไปซะเลย เพราะดูไอ้นี่แทนได้)


ก็หวังว่าจะมีคนมาเม้นท์มากขึ้นบ้างสักนิดล่ะนะ....

Firefox 13 ออกจริง! เจ๋งจริง!

เลข 13 เป็นเลขที่ทำให้เราได้รู้ว่าฝรั่งก็งมงายเป็น แม้แต่ในวงการซอฟต์แวร์ยังเคยมีการข้ามเวอร์ชั่น 13 ไปดื้อ ๆ (MS Office ไง) แต่นั่นไม่ใช่กับ Mozilla ที่นอกจากจะไม่ข้ามเลข 13 แล้ว ยังจัดหนักกับ Firefox 13 อีกด้วย!

สำหรับผู้ที่มี Firefox เวอร์ชั่นเก่าอยู่แล้ว สามารถอัพเดตได้ทันทีโดยเข้าไปที่เมนู วิธีใช้ > เกี่ยวกับ Firefox  ส่วนใครยังไม่ได้ลง Firefox ไว้ สามารถเข้าไปโหลดเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดได้เองที่ www.firefox.com โดยไม่ต้องรอให้ใครมาอัพแจก

บล็อกนินจะขอคืนชีพ...ได้มั้ย?

หายหน้าหายตาไปจากที่นี่เกือบ 5 เดือน พร้อมทั้งทิ้งท้ายไว้ว่า "จะขอเปลี่ยนแปลง" มาวันนี้กลับมาแล้วครับ แต่ไม่ได้มาเปลี่ยนแปลงแบบที่โม้ไว้ สรุปคือจะทำแบบเดิม ๆ นั่นแหละครับ

จากเดิมที่เคยวางแผนไว้ว่าจะเปลี่ยนไปทำบล็อกรีวิวเกมเต็มรูปแบบ แต่พอมาคิด ๆ ดู ไอ้ผมนี่ก็ไม่ได้บ้าเกมอยู่ทั้งปีทั้งชาติ เกิดอยู่ในช่วงเบื่อเกมหรือไม่มีเกมที่เล่นได้ บล็อกนี้ก็คงถูกทิ้งให้ฝุ่นจับ หนักกว่านั้น ผมกลัวว่าตัวเองจะถึงขั้น "ซื้อเกมมาเพื่อรีวิวเท่านั้น" แบบไม่ได้อยากเล่นแต่แค่เอามารีวิว รู้สึกมันจะเบียดเบียนชีวิตตัวเองเกินไป

แต่เหตุผลสำคัญจริง ๆ แล้ว คือ คอมเม้นท์มหาศาลในเอ็นทรี่ CastleVille ที่ตอนแรกทำให้ผมตัวลอยจนอยากเปิดบล็อกเกมโดยเฉพาะนั้น หลัง ๆ มามันชักไม่ไหวแล้วครับ คือ... มันกลายเป็นเอ็นทรี่ร้องทุกข์ไปซะล่ะ บางคนเหมือนจะนึกว่าผมเป็นแอดมินเกมนี้ไปซะงั้น แนวทางนี้อาจจะเหมือนประสบความสำเร็จ แต่กลุ่มเป้าหมายแบบนี้มันไม่ใช่ที่ผมต้องการเท่าไหร่ นี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมตัดสินใจว่า ไม่เอาดีกว่า!